2007年7月13日金曜日



"อัศวินเจไดนับพันรุ่นเคยเป็นผู้พิทักษ์สันติสุขและความยุติธรรมในสาธารณรัฐเก่า ก่อนจะเข้าสู่ยุคมืด ก่อนจะมีจักรวรรดิ"
―โอบีวัน เคโนบี
เจได เป็นกลุ่มองค์กรที่แต่งขึ้นของภาพยนตร์เรื่องสตาร์ วอร์ส ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในจักรวาล และยังเป็นเสมือนหนึ่งศาสนา หรือลัทธิ อีกด้วย
โดยทั่วไปเจไดหมายถึง อัศวินเจได (Jedi Knight) ซึ่งเป็นบุคคลที่สามารถควบคุมและใช้งานพลัง โดยเจไดจะเลือกใช้งานเฉพาะด้านสว่างของพลังเท่านั้น



ประวัติศาสตร์
ไร้ซึ่งความรู้สึก; มีแต่ความสงบ
ไร้ซึ่งความเขลา; มีแต่ความรู้
ไร้ซึ่งความโลภ; มีแต่ความใจเย็น
ไรซึ่งความตาย; มีแต่พลัง
— กฎของเจได
การเป็นเจไดนั้นต้องการข้อผูกมัดที่ลึกซึ่งและจิตใจที่หลักแหลม ชีวิตของเจไดคือหนึ่งของความเสียสละ การที่จะฝ่าฝืนกฎนั้น, พวกเขานั้นจะแสดงตนเองว่าเกิดมาเพื่อพลังซึ่งจะบอกโดยตรงตอนเขาเกิด(หรือเร็วๆนั้น)เพื่อฝึกในวิหารเจไดบนคอรัสซังหรือวงล้อมของเจไดที่เล็กกว่า จากการเริ่มต้นของการฝึกพวกเขาคาดว่าพวกเขาจะยึดติดกับกฏของเจไดซึ่งรวมทั้งความคิด�! ��ห็น เช่น ความรอบคอบ, อดทน, และความเมตตา ความรู้สึกเช่น ความเกลียด, ความโกรธ, ,และความกลัวถูกมองว่าเป็นการทำลายตนและนำสู่หนทางแห่งด้านมืด, ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จะถูกห้ามในการฝึกเป็นเจได



ทางเดิน
"สภาลงมัติอนุุญาติให้ข้าฝึกเจ้า เจ้าจะได้เป็นเจได,ข้าสัญญาิ"
―โอบีวัน เคโนบีบอกอนาคิน สกายวอล์คเกอร์์
เมื่อนักเรียนแต่ละคนได้รับการฝึกถึงขั้นที่น่าพอใจของหนทางแห่งเจไดแล้ว, พวกเขามักถูกดูแลภายใต้สมาชิกเจไดอีกคนหนึ่งและสอนความรู้เฉพาะบุคคลจนผ่านขั้นตอนการฝึก อาจารย์จะเป็นแบบอย่างให้แก่พาดาวันของเขาตลอดภารกิจ, และหลังจากส่งพวกเขาไปปฏิบัติภารกิจด้วยตัวของพวกเขาเอง, สำหรับพวกเขาเพื่อสั่งสมประสบการณ์และเรียนรู้จากการฝึกฝน



การฝึกฝน
"คริสตัลคือหัวใจของดาบ หัวใจคือคริสตัลของเจได เจไดคือคริสตัลของพลัง พลังคือดาบของหัวใจ ทุกอย่างต่างเกี่ยวข้องกัน: คริสตัล, ดาบ, เจได เจ้าเป็นหนึ่งเดียว"
―ลูมินาร่า อันดูลิี,ขณะอยู่ในพิธีสร้างกระบี่แสง
อาวุธตามธรรมเนียมของเจไดก็คือกระบี่แสง, ซึ่ง, เมื่ออยู่ในมือที่มีทักษะคล่องแคล่ว, อาจกลายเป็นการต่อสู้ที่ร้ายกาจ, แม้แต่กับการต่อกรกับคู่ต่อสู้ที่ใช้อาวุธระยะไกล ในการบรรลุระดับของทักษะนี้, อย่างไรก็ดี, มันต้องการความตั้งใจสูงและการฝึกฝนที่เข้มงวด นักเรียนจะฝึกฝนการใช้กระบี่แสงด้วยรีโมท, และเด็กๆจะใช้กระบี่แสงในการฝึกฝน พวกเขายังดวลกับเจได! ด้วยกันเองเพื่อทดสอบฝีมือของพวกเขา เมื่อถึงเวลาการใช้กระบี่จริงๆ, เจไดต้องการความระมัดระวังสูง, ด้วยเหตุนี้, เช่นการฝึกฝนให้เป็นหนึ่งเดียวกับพลัง ตั้งแต่การเป็นหนึ่งเดียวกับความประณีตในเนื้อในของกระบี่แสงและชั้นแรกของประจุพลังซึ่งต้องการความรู้ทางด้านพลังเพื่อสนับสนุน, เจไดจะสร้างกระบี่แสงด้วยตนเองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝน, ใช้คริสต�! ��ลพิเศษเป็นจุดรวมของใบม� �กระบี่แสง ในช่วงสงครามเจไดกลางเมือง, เจไดซีรีนหลายคนใช้คริสตัลพิเศษคาชาในกระบี่แสงเป็นเครื่องมือในการเข้าญาณ; โดยการเป็นหนึ่งเดียวกับคริสตัลในการฝึกกฏเกณฑ์ของพวกเขา, พวกเขาช่วยขจัดความวอกแวกในจิตใจ, แม้แต่ความตึงเครียดในการต่อสู้ ต่อไป, มันจะนำตัวมันเองเพื่อหาส่วนประกอบของกระบี่แสง การเข้าญาณในถ้ำคริสตัลบนดาวเคราะห์ เช่น อิลัมหรือแดนทูอี�! ��มักจะเห็นภาพใจจิตใจของเจไดเกี่ยวกับกระบี่แสงที่พวกเขาจะสร้างขึ้น การสร้างกระบี่แสงถูกพิจารณาเป็นเครื่องวัดระยะของการเข้าสู่ขั้นอัศวินเจได, และเป็นสัญลักษณ์ที่ให้ความหมายแข็งแกร่ง



การฝึกกระบี่แสง

"วิถีของเจไดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย,และถึงแม้เจ้าได้เป็นเจได,มันก็เป็นชีวิตที่ยากลำบาก"
―ไคว-กอน จิน
"หากวิถีของเจไดเป็นเรื่องง่าย,คงมีพวกที่เหมือนเราเป็นพันล้านแทนที่จะมีแค่ไม่กี่โหล"
―ลุค สกายวอล์คเกอร์
ในการปฏิบัติตามหลักของเจได, การปฏิบัติตัวของเจไดจะต้องไม่สั่นคลอนเพื่อยืนหยัดในระเบียบวินัยของตนเอง, มีความรับผิดชอบ, และช่วยเหลือสาธารณะ เจไดต้องควบคุมความรู้สึกและความเห็นแก่ตัว พวกเขามีชีวิตที่มีเกียรติ, หลักเกณฑ์, ในนิกายและความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และศิษย เจไดมักช่วยสนับสนุนและปกป้องความอ่อนแอ กฎของการผูกมัดเช่น ความรู้สึก ความคิดเห�! ��น ดั่งความเข้าใจในด้านมืดและสว่างในทุกสิ่ง, เรียนรู้ที่จะเห็นอย่างระมัดระวัง, เปิดตาของพวกเขาเพื่อรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ชัดแจ้งและปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง, แม้แต่กับสนใจในสิ่งเล็กๆน้อยๆ สำคัญที่สุด, เจไดทำหน้าที่เพื่อสาธารณรัฐและเป็นหนึ่งเดียวกับพลัง เหล่าเจไดก่อนที่รูซานน์จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบมีหนทางหลายหนทางในการปฏิบัติของพวกเข! า, นิกายมีการจัดรวมที่หล� �หลวมและอัศวินเอกชนและปรมาจารย์ยอมให้อิสระส่วนตัวมากกว่า ภายหลัง, นิกายมีศูนย์กลางสำคัญคือสภาสูง
"เจไดไม่เห็นแก่ตัว พวกเขาคำนึงถึงผู้อื่น"
―อนาคิน สกายวอล์คเกอร์
แม้ว่าต่อมามันจะกลายเป็นข้อห้าม, เจไดในยุคแรกๆจะใช้โล่และเกราะเพื่อป้องกันตนเองในสนามรบ, และใช้ปืนเลเซอร์แทนกระบี่แสงในการต่อสู้ เจไดในยุคก่อนการเปลี่นแปลงยังไม่มีชุดคลุมอีกด้วย, หรืออาจมีมากหรือน้อยเมื่อพวกเขาเห็นว่าเหมาะสมแล้ว, แม้ว่าเสื้อคลุมยาวตามประเพณีนั้นเป็นที่ชอบของปรมาจารย์ส่วนใหญ่ก็ตาม นี่รวมถึงเสือ้คลุมที่มีแขน, เสื้อคลุมไม�! �มีแขน—มักจะมีสีและโทนที่ไม่เปลี่ยนแปลงของสีขาวและน้ำตาล, และ, สีเทาก็เป็นสีปกติของเสื้อคลุมด้วย ด้านข้างซ้ายของชุดคลุมมักผลิกให้เห็นด้านขวาของลำตัว หลังจากมีการเปลี่ยนแปลง, เสื้อคลุมยาวก็กลายเป็นเสื้อผ้าหลักของเจได, แม้แต่ในสมรภูมิ เจไดยังใส่กางเกงอีกด้วย, โอบิ เข็มขัดหนังสาระพัดประโยชน์, ที่ซึ่งพวกเขาเก็บเครื่องมือพิเศษสำหรับในภารกิจของ�! �วกเขา, และบูทหนัง สีของเจ ได, ซึ่งแสดงให้เห็นความกลมกลืนกับพลัง, ซึ่งมีรูปร่างตรงกันข้ามกับซิธอย่างสิ้นเชิง, ผู้ซึ่งแต่งกายโดยใช้สีดำเป็นหลัก ในการเห็นพ้องต้องใจของพวกเขาในเรื่องการไร้ความยึดติด, ชุดแสดงให้เห็นว่าบางที่ก็ไม่จำเป็นในทีเดียว
"เราคือเจได,เราไม่ได้อยู่เพื่อตนเอง เราปฏิญาณตนว่าจะรับใช้พลังที่สูงกว่าพวกเราเอง"
―ไคว-กอน จิน
เจไดแห่งสาธารณรัฐถูกต้องห้ามมิให้มีความผูกพันที่แรงกล้า, ดังที่พวกเขาเชื่อว่ามันจะนำไปสู่ความรู้สึกของด้านมืด ด้วยเหตุนี้, เจไดจึงห้ามให้มีการแต่งงาน อนาคิน สกายวอล์คเกอร์์อาจเป็นคำสั่งเสียในเรื่องการระมัดระวังของเจได, เหมือนที่เขากลัวการสูญเสียภรรยาลับของเขา, แพดเม่ อมิดาลา, เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาจมลงสู่ความมืด, แต่การติดต่อกับลูกชาย�! ��องเขา, ลุค สกายวอล์คเกอร์, จะนำเขากลับสู่แสงสว่าง แม้ว่าเจไดไม่ได้มีข้อต้องการว่าจะต้องบริสุทธิ์, เจไดหลายคนเป็น อย่างน้อยหนึ่งกรณีพิเศษที่ได้ถูกบันทึกไว้: คิ-อดิ-มันดิิ, เนื่องจากเกิดมาโดยเป็นซีรีนที่มีถานะต่ำ, ซึ่งอนุญาตให้แต่งงานโดยมีภรรยาหลายคนได้, และเป็นพ่อของลูกสาว7คน รานิค โซลูซาร์ถูกสั่งสอนวินัยจากสภาในการแต่งงานของเขาและลูกที่เกิด,แ! ต่ก็ไม่ได้ถูกขับไล่ออกจ� ��กนิกาย
แม้จะมีข้อจำกัดนี้, เจไดรู้การที่จะมีความลับ, ความสัมพันธ์อย่างลับๆ, กับคนที่ไม่ใช่เจได, เช่น การแต่งงานของอนาคิน สกายวอล์คเกอร์กับแพดเม่ อมิดาลา, ควินลัน วอสและคาลีน เฮนทซ์, และนีจา ฮัลซีอนกับซีร่า ฮัลซีอน; หรือกับคนในนิกายเจได—เช่น ความสัมพันธ์ของคิท ฟิสโตกับเอย์ล่า ซีคูร่า, ไคว-กอน จินกับทาฮ์ล, โอบี-วัน เคโนบีกับซีริ ทาชิ, และโทล์มกับที'อซา ความสัมพ�! ��นธ์พวกที่ส่วนมากไม่ได้นำไปสู่โชคร้าย ไกลออกไป, รีแวนแบ่งปันความรักกับแบสติล่า ชานซึ่งทำใหเธอพ้นความชั่วร้าย
"การผจญภัย...เรื่องตื่นเต้น...เจไดไม่ได้โหยหาในสิ่งเหล่านี้"
―โยดา
ความด่างพร้อยอื่นๆที่เห็นได้ชัดในสภาสูงในเรื่องนี้ นี่นำไปสู่ความโกลาหลของโจลี บินโดกับภรรยาของเขา,นายาม่า บินโด, ในช่วงมหาสงครามซิธ บินโดฝึกสอนภรรยาของเขาให้ใช้พลัง,แต่แล้วไม่นานเธอก็จมลงสู่ด้านมืด เขาไม่ได้ถูกขับไล่ออกจากนิกาย,กลับถูกเลื่อนขั้นให้เป็นอัศวินเจไดอีกตั้งหาก เขาจึงเสียศรัทธาในความไตร่ตรองของสภาและออกจกานิกาย
มาถึงยุคเปลี่ยนแปลงของรูซานน์, เจไดบางคนได้ทำการแต่งงานและมีครอบครัวเป็นของตนเอง แม้แต่ทั้งครอบครัวก็เกิดมาจากเจได, เช่น ครอบครัวของเอ็นเดอร์ ซันไรเดอร์ เด็กจากครอบครัวเจไดมักมีพรสวรรค์ในพลัง แม้ว่าต่อมาในนิกาย, ครอบครัวก็ยังมีอยู่—แม้ว่าการสืบเชื้อสายนั้นผ่านจากสมาชิกของครอบครัวแต่ละคนซึ่งไม่ได้เป็นเจได ครอบครัวเจไดแห่งสาธารณรัฐล่าสุด�! �ังรวมถึงครอบครัวคูนและครอบครัวเดธท์
เส้นทางของเจไดนั้นเป็นชีวิตที่ยืนยาว, และเจไดมักใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ในนิกาย—เรียนรู้เกี่ยวกับนิกายและพลังมากขึ้นและเดินตามเจตนารมณ์ของสภาเจได จนกระทั่งเกิดสงครามโคลน, มีเจไดเพียง20คนเท่านั้น(ทั้งอัศวินหรือสูงกว่า)กล่าวว่าจะออกจากนิกาย, อย่างผู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดเคาท์นดูกูและปรมาจารย์ฟาเนียส พวกเขาเหล่านี้ถูกเรียกว่าผู้สูญหายทั้ง20, หรื�! ��เรียกง่ายๆว่า"ผู้หลงทาง"



หนทางแห่งชีวิต
"พันธมิตรของข้าคือพลัง,และมันเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งซะด้วย"
―โยดา
"เจไดไม่เชื่อในการสังหารนักโทษของพวกเขา...อะไรเล่าจะเป็นอาวุธที่ดีกว่าการเปลี่ยนศัตรูให้มาเป็นฝ่ายเจ้า เพื่อใช้ความรู้ของพวกมันต่อสู้พวกมัน"
―แบสติล่า
ด้านมืดของพลังนั้นเป็นที่น่ายั่วยุของเจไดหลายต่อหลายคน; หลายอย่างของด้านมืดดูเร็วกว่าและง่ายกว่า แสวงหาในด้านมืด, อบ่างไรก็ตาม,มันเป็นการพยายามที่จะทำลายตนเอง, และเจไดหลายคนผู้ที่ใช้พลังมืดพบว่ามันยิ่งหันกลับไปมากขึ้นและมากขึ้น แม้ว่าเจไดบางคนอาจกลับเข้าสู่แสงสว่างได้อีกครั้ง, แต่หลายคนก็จมลึกจนกลายเป็นเจไดมืด, บางคนก็เป็นสามชิกของนิกาย�! ��ิธ ไกลออกไป, การโหยหาด้านมืดที่น้อยลงก็ลดความสามารถของเจไดลงไปด้วย, บดบังการมองทะลุในสิ่งสำคัญ ด้วยเหตุนี้, การฝึกฝนพลังด้านมืดประกาศเป็นสิ่งต้องห้ามโดยสภาเจได พวกที่จมสู่ด้านมืด,อย่างไรก็ตาม, เจไดก็พยายามที่จะช่วย ในเจได, การฆ่าคือหนทางสุดท้าย ความดีเลวนี้ครั้งหนึ่งเป็นความแข็งแกร่งและอ่อนแอของนิกาย มันทำให้พวกเขาดูเหมือนน่าไว้ใจเกินไป; อ�! ��่างไรก็ตาม, แม้แต่ซิธที่ แข็งแกร่ง เช่น รีแวนและดาร์ื์ธ เวเดอร์์ก็ถูกช่วยและหันกลับสู่ด้านสว่างโดยเจได



พลัง
"เจไดไม่สู้เพื่อความสงบ นั่นเป็นเพียงประโยค, และมันเป็นที่เข้าใจผิดว่าประโยคนั้นมันเป็นจริงเสมอ เจไดสู่เพื่ออารยธรรม, เพราะว่ามีแต่อารยธรรมเท่านั้นที่สร้างความสงบ เราสู้เพื่อความยุติธรรมเพราะความยุติธรรมเป็นรากเง้าของอารยธรรม: อารยธรรมที่ไม่มีความยุติธรรมนั้นสร้างบนผืนทราย มันจะไม่ทนทานต่อพายุที่โหมกระหน่ำ่"
―เมซ วินดู


ความแข็งแกร่งของกฎของเจไดและนิกายตั้งอยู่บนสามคำสอนหลัก
เมื่อใช้อย่างถูกต้อง, มันจะช่วยเจไดแก้ปัญหาทุกปัญหาและผ่านอุปสรรคทุกอุปสรรค, ช่วยกาแลคซี่ให้สงบขึ้น


เจได
สามหลักมั่นของความแข็งแกร่งของเจได
"สภายกเจ้าเสนอระดับอัศวินเจได นั้นสมควรแล้ว,แต่จะให้เห็นด้วยกับการนำเด็กนี้มาเป็นพาดาวันนั้น,ไม่เห็นด้วย"
―โยดาบอกโอบี-วัน เคโนบี
เช่นเดียวกับที่เจไดต้องยึดมันในกฎของเจไดและพลัง, สมาชิกแต่ละคนจะต้องบรรลระดับพื้นฐานทั้งสี่ของเจได



ลำดับชั้นของอัศวินเจได
อัศวินเจไดหรืออาจารย์เจไดจะมีศิษย์เพียงครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น, และพาดาวันต้องเป็นอัศวินเจไดก่อนที่จะเลือกพาดาวันคนใหม่มาเป็นศิษย์ หลายพันปีก่อนช่วงการเปลี่ยนแปลงของรูซานน, อย่างไรก็ดี, อาจารย์สามารถมีศิษย์มากกว่าหนึ่งคนได้, เช่น อาจารย์อาคา เจทธ์ที่มีถึงสามคน—พี่น้องอุลลิคและเคย์ เคว-โดรม่าและทวิ'เลค ทอทท์ โดนีตา เมื่อนิกายเจไดใหม่เริ่มต้น! ครั้งแรก, ลุค สกายวอล์คเกอร์มอบหมายนักเรียนหลายคนให้กับอาจารย์ที่น้อยนิดในนิกาย; ตัวอย่าง, ไคล์ คาทาร์นมีเจเดน คอรร์และรอช เพนิน ทั้งสองถูกมอบให้กับเขา

เจไดผู้ช่ำชอง เป็นหนทางสำหรับผู้ใหญ่ที่มีความรู้สึกด้านพลังซึ่งไม่เคยฝึกฝนตามระเบียบของเจไดมากก่อน
เจไดเริ่มต้น (หรือ ยังลิ่งหรือ"คาดหมายว่าจะเป็นเจได") เด็กที่มีความรู้สึกด้านพลัง มักตรวจพบว่าจะได้เป็นเจไดโดยตรวจจากตัวอย่างเลือด -- พวกที่มีพลังแฝงอยู่มักจะมีจำนวนมิดิ-คลอเรี่ยนที่สูงในเลือดของพวกเขา ด้วยวัยทียังอ่อน, เด็กจะถูกนำมากจากครอบครัวของพวกเขาและไปที่วิหารเจไดเพื่อเริ่มการฝึก ยังลิ่งจะรวมกันเป็นกลุ่มเดียวกัน
เจไดพาดาวัน ; ศิษย์ที่เริ่มการฝึกสอนอย่างจริงจังโดยอัศวินเจไดเพียงหรือปรมาจารย์เจไดหนึ่งคนเท่านั้น ในการวัดขั้นของสถานะพาดาวัน, ผู้เริ่มต้นต้องถูกเลือกโดยอัศวินหรืออาจารยโดยที่มีศิษย์เพียงคนเดียว์ หากยังลิ่งยังไม่ถูกเลือกให้เป็นพาดาวัยจนมีอายุ13ป, ยังลิ่งจะถูกเปลี่ยนไปเป็นตำแหน่งอื่นแทน, อย่างน้อยก็จนวนเวียนอยู่ในเหล่าเจไดช่วยเหลือ, หรื! อพวกเขาอาจถูกเลือกให้ออกจากนิกาย มันขึ้นอยู่กับว่าความสามารถของเขามันแสดงออกมาทางด้านไหน อาจเป็นเหล่ากสิกรรม, เหล่าการแพทย์, หรือเหล่าสำรวจ พาดาวันจะไวผมเปียยาวไว้หลังหูขวา เมื่อพาดาวันเลื่อนขึ้นสู่เหล่าอัศวินเปียก็จะถูกตัดในระหว่างพิธีกรรมอัศวิน อย่างน้อยเจไดไม่กี่คน, แม้ว่า, จะเป็นอัศวินไม่ยุ่งยากโดยแค่บอกว่าพวกเขาได้ผ่านการพิสูจน์ควา! มเป็นเจไดจะถูกไตร่ตรองว� ��าจำเป็น;อย่างเช่น โอบี-วัน เคโนบี, และเวอร์จ บางทีก็ยกเว้นให้สำเร็จการฝึกพาดาวันไปเลย, อย่างในกรณีของอนาคิน สกายวอล์คเกอร์
อัศวินเจได ; พาดาวันที่ถูกฝึกสอนอาจกลายเป็นเจที่ถูกสอนเต็มที่แล้วเมือ่พวกเขาสำเร็จการพิสูจน์ความเป็นเจได การพิสูจน์ี่มี, แต่มันก็มีจำกัดเช่นกัน: การพิสูจน์แห่งความเป็นคน, การพิสูจน์แห่งความกล้าหาญ, การพิสูจน์แห่งทักษะและการพิสูจน์แห่งตน(หรือการพิสูจน์แห่งกระจกเงา)
อาจารย์เจได ; อัศวินเจไดที่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในพลังและจัดการสอนพาดาวันและฝึกจนเขาบรรลุถึงอัศวินเจได คำนำหน้านี้อาจใช้ให้กับผู้ที่ทำวีรกรรมที่น่ายกย่อง การประกาศตนเองให้เป็นอาจารย์เจไดนั้นหายากและเป็นที่ไม่พอใจของสถาเจได(ตัวอย่าง: โจรัส ซี,บอทและตัวโคลนของเขาโจรัส ซี,บอท)
สมาชิกของสภา ; เจไดน้อยนักที่จะถูกเสนอชื่อให้รับใช้สภาเจได, การดูแลนิกาย สภาจะมีแต่ผู้ที่มีความรู้เยอะส่วนใหญ่, อาจารย์ทีมีประสบการณ์(ในวันที่แห้งเหือดของนิกาย, หนึ่งอัศวิน, คิ-อดิ-มันดิ, ทำหน้าที่เป็นสมาชิกของสภา, แต่เขาพบความยากลำบากในการเป็นอาจารย์ในเวลาที่เขาถูกเสนอชื่อ) อัศวินเจไดอีกคน, อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ถูกแต่งตั้งเข้าสภาโดยสมุหนายกพ! ัลพาทีน, แม้ว่าเขาจะไม่ไดรับขั้นอาจารย์เพราะเหตุนี้ สภาจะประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมดเป็นอาจารย์12คน, ห้าคนจะใช้เวลาทั้งชีวิต(สองคนจะขอลดตำแหน่งเป็นรอง), สี่คนในช่วงเวลายาวนาน, และสามในช่วงเวลาสั้นๆ
อาจารย์ผู้อาวุโส ; ระดับสูงสุดในนิกายเจไดนั้นคืออาจารย์ผู้อาวุโส โยดาคือหนึ่งในอาจารย์ผู้อาวุโส, เช่นเดียวกับลุค สกายวอล์คเกอร์ในสงครามสวาร์ม บางคนเชื่อว่าอาจารย์แวนดาร์ตั้งตัวเองเป็นอาจารย์ผู้อาวุโส

การปกครองของนิกาย
การเป็นเจไดคิอชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งในถานะนิกายเจไดซึ่งต้องมีตวามรับผิดชอบสูง ขณะที่เจไดส่วนมากเป็นเจไดรักษาการ, บางที่อาจทำหน้าที่พิเศษในบริเวณไม่มากก็น้อย แต่ในการเห็นพ้องต้องกันกับความสนใจของพวกเขาและการเลื่อน, หรือเพราะพวกเขาถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่รับผิดชอบสำหรับพื้ที่ซึ่งต้องการหน่วยพิเศษทำ ด้วยการเป็นหน่วยพิเศษนี้มัก�! ��ลายเป็นเจไดที่ไม่เหมือนคน ยิ่งกว่านั้น,ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของกาแลคซี่,เจไดบางคนจะทำหน้าที่ทางการทหารและสู้รบเคียงข้างกับกองกำลังของสาธารณรัฐ



หน่วยปฏิบัติการพิเศษ
"สงครามไม่ได้ทำสิ่งใดให้ดีขึ้น!"
―โยดา
ในตำแหน่งอื่นๆที่เพิ่มมาจากตำแหน่งธรรมดา,มีจำนวนของยศและตำแหน่งอยู่บนพื้นฐานของหน่วยพิเศษในพื้นที่ของสงครามและการต่อสู้

ผู้บัญชาการเจได (Jedi Commander) – พาดาวันที่ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการในกองทัพหลักแห่งสาธารณรัฐ,ผู้บัญชาการเจไดจะทำหน้าที่จนกระทั่งได้เป็นอัศวิน เมื่อเป็นจไดอย่างเต็มตัว,พาดาวันจะได้รับหน้าที่นายพล
นายพลเจได (Jedi General) – เจไดผู้ที่ทำหน้าที่บัญชาการกองทัพของสาธารณรัฐ ถูกพิจารณาให้เป็นนายพลอย่างเต็มตัว
นายพลเจไดผู้อาวุโส (Senior Jedi General) – ตำแหน่งสูงของเจไดที่ทำหน้าที่เป็นนายพลในสงครามโคลน,นายพลเจไดผู้อาวุโสมักจะเป็นอาจารย์เจไดที่มีประสบการณ์ด้านการทำสงครามและยุทธวิธี
นายพลเจไดขั้นสูง (High Jedi General) – สมาชิกของสภาเจไดที่ทำหน้าที่เป็นนายพลในช่วงสงครามโคลน,นายพลเจไดขึ้นสูงไม่ได้แค่บัญชาการกองทัพของตนเองเท่านั้น,แต่ยังคงสั่งการนายพลเจไดคนอื่นๆอีกด้วย โยดา(Yoda),โอบี-วัน เคนโนบี(Obi-wan Kenobi),และเมซ วินดู(Mace Windu)เป็นนายพลเจไดขึ้นสูงที่มีชื่อเสียง
ขุนนางเจได (Jedi Lord) – เจไดผู้ที่รับหน้าที่กองทัพแห่งแสงสว่างในช่วงสงครามซิธใหม่ ขุนนางเจไดที่ดำรงตำแหน่งนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองแต่อย่างใด ตำแหน่งนี้ถูกยกเลิกหลังสงคราม
นักรบแห่งพลัง (Force Warrior) – เจไดผู้ที่มีทักษะในการต่อสู้ที่ไม่มีอาวุธใดๆ,มีเพียงการใช้การเข้าญาณ ศิลปะการป้องกันตัวและพลัง
เจไดเอซ (Jedi ace) – เจไดผู้ที่มีความพิเศษในด้านการสู้รบโดยใช้สตาร์ไฟเตอร์,เป็นการใช้ทักษะในการเป็นนักบินและความสามารถพลัง
เจไดผู้รักษาทางเข้า (Jedi gatemaster) – เจไดผู้ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาของทางเข้าหลักสู่วิหารเจได เจไดเหล่านี้มักจะถูกฝึกในทางที่พิเศษออกไป
เจไดผู้พิทักษ์ (Jedi Guardian) – อาจารย์เจไดผู้ที่มีทักษะพิเศษทางด้านการต่อสู้,ผู้พิทักษ์จะเพ่งเล็งสมาธิเรื่องกางฝึกฝนสงครามและการต่อสู้เป็นพิเศษโดยที่ไม่สูญเสียจุดมุ่งหมายบนชั้นเชิงและหลักธรรมของพลัง
เจไดผู้เชี่ยวชาญอาวุธ (Jedi Weapon Master) – อาจารย์เจไดผู้ที่เพ่งเล็งไปที่การต่อสู้คนเดียว,ผู้ที่เชี่ยวชาญทางอาวุธเป็นนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิกาย,แต่ยังมีความเข้าใจในความเป็นธรรมและทักษะของพลังที่ปราศจาการต่อสู้

การเยียวยา
"ในสถานที่มืดมิดเราก็พบ… ความรู้นั้นอาจสร้างแสงสว่างนำทางให้เราได้"
―โยดา
เจไดบางคนอาจเชี่ยวชาญในเรื่องเก่าๆ,เช่นในประวัติสาสตร์ของกาแลคซี่,พลัง,และนิกายเจได,สร้างความรู้ที่หาค่ามิได้

นักโบราณคดีเจได (Jedi archaeologist) – เจไดผู้ที่มีความสามารถในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์จากการขุดค้นทางโบราณคดี,เจไดโบราณคดีมักจะมีสมาชิกที่มาจากคณะสำรวจ(ExplorCorps)และสนับสุนให้การสำรวจมีหลากหลายแนวทาง
นักประวัติศาสตร์เจได (Jedi historian) – เจไดผู้ที่มีความสามารถในด้านการรายงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของกาแลคซี่และนิกายเจได,นักประวัติศาสตร์เจไดรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับนิกายเจไดอย่างละเอียด
บรรณารักษ์เจได (Jedi librarian) – เจไดผู้ที่มีความสามารถในด้านการดูแลฐานข้อมูลของความรู้,บรรณารักษ์เจไดมีหน้าที่อย่างสำคัญในหอสมุดเจได(Jedi library),เช่นมหาหอสมุดเจได(Great Jedi Library)โบราณ,หอสมุดแห่งกลุ่มเจได(Jedi Enclave)บนแดนทูอีน(Dantooine),หรือเอกสารของเจได(Jedi Archives)
นักธรณีวิทยาเจได (Jedi geologist) – เจไดผู้ที่มีความสามารถในด้านธรณีวิทยา
เจไดเกี่ยวกับกงสุล (Jedi Consular)/นักปราชญ์ – อาจารย์เจไดผู้อุทิศตนให้กับเรื่องที่ลึกลับในพลัง,กงสุล(นักปราชญ์ในขั้นปรมาจารย์)จะมีการมองทะลุในธรรมะของพลังและมีทักษะสูงในการใช้พลังที่หลากหลาย

0 件のコメント:

易赚 28cash